หากใครชื่นชอบภาพความรักหนุ่มสาว Before Trilogy (Before Sunrise, Before Sunset และ Before Midnight) หรือการรวบความทรงจำตลอด 12 ปี อย่าง Boyhood แล้วละก็ ครั้งนี้ Richard Linklater จะกลับมาเขย่าความทรงจำในยุค 80s อีกคร้้งกับเรื่อง Everybody Want some!!
Everybody Wants Some!! เป็นเรื่องราวของ การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ของเหล่าทีมเบสบอลของมหาลัย ในเวลา 4 วันก่อนที่จะเปิดเทอม!!
จริง ๆ แล้ว Tagline เรื่องนี้มันก็บอกอย่างตรงตัวอยู่แล้ว ซึ่งมันคืออีกเสน่ห์จริง ๆ ของ Richard Linklater ที่เลือกจะเล่าช่วงเวลาแค่ช่วงหนึ่งสั้น ๆ ในชีวิตออกมาเท่านั้น และทุกเรื่องที่เลือกเล่ามานั้น มันช่าง งดงาม ลงตัว น่าประทับใจ และโรแมนติก (ขนาด Boyhood ที่ใช้เวลา 12 ปี ยังเลือกแค่ช่วง ๆ หนึ่งในแต่ละปีมาเล่าถึง) ในเรื่อง Everybody Wants Some!! ก็เช่นกัน ในเรื่องนั้นดำเนินไปแค่ 4 วันเท่านั้น แต่ทุกอย่างในยุค 80s กับถูกอ้างถึงได้แทบทั้งหมด ซ้ำยังไม่มีการรู้สึกว่าถูกยัดเยียดใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น การแต่งตัว, การพูดคุย, สไตล์การใช้ชีวิต, เพลงที่เล่นตั้งแต่ Disco, Country, Punk Rock จนลามไปถึง Rock’n Roll หรือแม้ขนาดหนังซีรี่ส์ที่ถูกอ้างอิงถึงอย่าง Twilight Zone และ Fame อีกด้วย อย่างที่บอกตาม Tagline อีกครั้งว่า Here for a good time, Not a long time หนังเรื่องนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความสนุกสนาน กล้า บ้าบิ่น หยาบคาย ตามประสาวัยรุ่นห่าม ๆ ที่เห็นทั่วไปในหนังแนว college teenager movie (ซึ่งมันน่าจะเป็นเสน่ห์อีกอย่างของหนังแนวนี้ในช่วงยุค 80s จากที่เคยดู ๆ ก็จะออกมาในแนว ๆ นี้ แต่ถ้าหากจะเทียบให้เข้ากับยุคปัจจุบันง่ายก็คงจะหนีไม่พ้น American Pie ในเวอชั่นที่ดีกว่ามากกกก) แต่การที่มันไปสุดทางของความสนุกสนานนี้ มันยังสามารถสร้างความโรแมนติกได้อย่างสุดถึง กับจีบสาวของตัวเองที่จีบผ่านการเขียนบทกวี และคุยกันทางโทรศัพท์ (ยกให้เป็น another my favorite scene เลยทันที) ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงไม่แปลกใจที่ว่าทำไหม หนังมันถึงทำให้เราหัวเราะ และ ยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง (เพราะมันไม่มีพักเบรคสร้างปมสร้างดราม่าใด ๆ ทั้งสิ้น) อีกส่วนหนึ่งที่ต้องยกความดีความชอบให้กับหนังเรื่องนี้คือนักแสดงทุกคนในเรื่องมีคาเร็คเตอร์ที่ชัดเจน และน้ำหนักของแต่ละตัวไม่มีใครขาดใครเกิด ซ้ำยังช่วยพึ่งพาพึ่งอาศัยกันจนหนังมันไปสุดทางของมัน
แต่ส่วนตัวที่ชอบอีกอย่างก็คือ การที่อยู่ ๆ ตัวเองสะดุดขณะหนึ่งและถามว่า “เราเป็นอะไรกันแน่” ก่อนที่จะร่วมละลายหายไปและร่วมวงปาร์ตี้ Punk Rock อย่างสนุกนั้น มันจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก เพราะในช่วงมหาลัยมันคือช่วงที่เป็นอิสระมากที่สุด เป็นช่วงที่ใช้ชีวิตอย่างไม่แคร์ใด ๆ มันคือก้าวสุดท้ายจริง ๆ ก่อนที่จะเจอกับโลกภายนอกที่แสนโหดร้าย…. เพราะฉะนั้นเก็บเกี่ยวและกลืนไปกับมันซะ ก่อนที่จะได้แค่นึกฝันว่า “ทำไมเราไม่ทำอย่างนั้นตั้งแต่ตอนนั้นว้าาา”
“หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดีที่สุดถึงขั้นเป็น Top of the year แต่มันก็ทำให้ยิ้มกว้างและสุขที่สุดจนถึงขั้น Best feel good of the year ได้แน่นอน….”